เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2561 เวลา 09.00 – 11.00 น. ที่ผ่านมา ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ร่วมกับสำนักวิชาแพทยศาสตร์ได้จัดประชุม เรื่องแนวทางการดูแลนักศึกษาที่ป่วยด้วยโรควัณโรค โดยได้รับเกียรติจากวิทยากร ผศ.นพ.พันธ์ชัย รัตนสุวรรณ ตำแหน่ง อาจารย์แพทย์สำนักวิชาแพทย์ศาสตร์ และนายวิเชียร ตระกูลกลกิจ ตำแหน่ง นักวิชาการสาธารณสุข โรงพยาบาลท่าศาลา มีผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายที่ได้แก่ อาจารย์สำนักวิชาต่างๆ ที่ปรึกษาหอพักนักศึกษา พยาบาลวิชาชีพ และนักวิชาการสาธารณสุข ศูนย์การแพทย์ฯ ณ ห้องประชุมระเบียงบรรณ ชั้น 1 อาคารศูนย์บรรณสารและสื่อการศึกษา
ด้วยที่ผ่านมีมีนักศึกษามหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ป่วยด้วยโรควัณโรค ตั้งแต่ ปี พ.ศ 2558 – 2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 7 คน ซึ่งมีผลกระทบต่อการเรียนของนักศึกษา เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาในการดูแลรักษานาน 6 เดือน จึงจัดประชุม เรื่อง แนวทางการดูแลนักศึกษาที่ป่วยด้วยโรควัณโรค เพื่อการดูแลนักศึกษาที่ป่วยด้วยโรควัณโรค ให้มีผลกระทบต่อการเรียนน้อยที่สุด และเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคอย่างมีประสิทธิภาพจึงได้จัดประชุมในครั้งนี้ขึ้น
โดยประเด็นสำคัญในการประชุมเพื่อปรึกษาหารือในครั้งนี้ ได้แก่
- สิ่งน่ากลัวเกี่ยวกับวัณโรค คือ
- ผู้ป่วยที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค
- ผู้ป่วยที่ไม่รับประทานยาตามกำหนด
- สำหรับนักศึกษาที่ได้รับการวินิจฉัยป่วยเป็นวัณโรค และกินยาตามกำหนด พร้อมทั้งสวมหน้ากากอนามัย ก็สามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่แพร่เชื้ออย่างแน่นอน เพียงแต่แนะนำให้พักการเรียนซัก 1 สัปดาห์ แล้วกลับมาเรียนได้ตามปกติ
- ไม่ควรให้นักศึกษาที่ป่วยเป็นวัณโรคกลับไปรักษาตัวที่บ้านด้วยตัวเองเพราะอาจทำให้เกิดการระบาดที่บ้านหรือชุมชนได้ ควรแนะนำให้นักศึกษามาพบแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ใกล้เคียง เช่น โรงพยาบาลท่าศาลา, ศูนย์การแพทย์ มวล. เพื่อให้สามารถควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การสวมหน้ากากอนามัยให้กับผู้ป่วยเป็นวิธีการป้องกันโรคที่เหมาะสมและปลอดภัย ตามลักษณะของการแพร่กระจายของเชื้อวัณโรค
- การป้องกันวัณโรคเป็นหน้าที่ของทุกคนในองค์กร หรือชุมชน
- ควรมือการสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจวัณโรคสามารถป้องกันได้ ลักษณะอาการของโรค ลักษณะการแพร่กระจายของโรค รวมทั้งวิธีการป้องกันโรค เพื่อช่วยลดความเครียดของการดำรงค์ชีวิตในสังคมของผู้ป่วย
- ควรเน้นย้ำเรื่องการคัดกรองกลุ่มเสี่ยงเพื่อควบคุมและป้องกันโรค เช่น ควรให้นักศึกษา หรือผู้ที่มีอาการไอเรื้อรังเกิน 2 สัปดาห์ มาพบแพทย์ทันที